ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
ผัดแป้งแล้วบรรจงแต่งหน้า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง คิ้ว ที่ดำก็เพราะใช้ถ่านหรือเขม่าทา คิ้วต้องโค้งเหมือนคันศร
"พิศพักตร์ผ่องพักตร์ดังจันทร พิศขนงโก่งงอนดังคันศิลป์"
และริมฝีปาก ถ้าไม่กินหมากจนปากแดงฟันดำ ก็บรรจงแต่งแต้มด้วยสีแดงที่เป็นแผ่นกระดาษสี่เหลี่ยมบางแข็ง เอามาทาที่ริมฝีปากหรือทาแก้มแบบบลัชออนในสมัยนี้ก็ได้ อินจี เป็นของนำเข้าจากจีน หรือที่คนสยามเรียกว่า สีลิ้นจี่
"โอษฐ์บางอย่างสีลิ้นจี่จิ้ม งามพริ้มเพราสมคมสัน"
สาวบางคนก็ใช้ฝุ่นสีชาดผสมน้ำทาปาก
"ผมสลวยสวยขำดำเป็นเงา ให้ชื่อเจ้าว่าพิมพิลาไลย"
ค่านิยมของสาวสมัยแม่พิมพิลาไลยยุคต้นรัตนโกสินทร์ เวลาหล่อนแต่งผม คงเป็นผมทรงพุ่มหรือทรงปีกตามสมัยนิยม จะทำให้มีปีกได้ต้องจับเขม่า ด้วยดินก้นหม้อหุงข้าว เพราะใช้หม้อดินและฟืนหุงข้าว ผสมน้ำมันตานีหรือน้ำมันมะพร้าว นำมาละเลง ยีผม จับให้แผ่ตั้งเป็นปีก ปล่อยผมอีกส่วนทัดเป็นพู่ที่ริมหูสำหรับประดับดอกไม้หรือเครื่องประดับ ทรงผมอีกแบบหนึ่งเรียกว่าทรงดอกกระทุ่ม จะไว้ผมยาว จับเขม่าดินหม้อผสมน้ำมัน หวีเสยไปด้านหลัง สตรีชั้นสูงอาจผสมเครื่องหอมในเขม่า เช่น กระแจะจันทน์ นี่คือยาย้อมผมหญิงสยามยุคต้นรัตนโกสินทร์
หน้าหลัก |