Open Education Resources
                     : แหล่งทรัพยากรเพื่อการสนับสนุนการเรียนทางไกล

                                                                                                                             จุฑารัตน์ นกแก้ว*

                      การศึกษาทุกวันนี้ เป็นการศึกษาในยุคไร้พรมแดน ทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งทรัพยากร
  การศึกษาได้จากการอ่านวรรณกรรมด้านการศึกษาทางไกล หรือการศึกษาแบบเปิดมักจะพบว่า มีการ
  นำเสนอนื้อหาOpen Education Resources  ในส่วนหนึ่งส่วนใดของเนื้อหา ผู้เขียนได้อ่านบทความเกี่ยว

  กับ Open Education Resource จากวารสาร Open Learning ซึ่งเป็นวารสารที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก
  The Open University UK เนื้อหาในบทความดังกล่าวเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา ผู้สอนและ
  นักการศึกษาทางไกล จึงขอสรุป เรียบเรียงมานำเสนอบางส่วนเฉพาะความหมายและพัฒนาการของ
  Open Education Resources

                      Open Education Resources หรือ เรียกสั้นๆ ว่า OER  เป็นการจัดเตรียมแหล่ง ทรัพยากร
  ด้านการศึกษาแบบเปิดที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือสนับสนุน ผู้ใช้สามารถดัดแปลง ปรับ
  แหล่งสารสนเทศดังกล่าวให้เหมาะสมตามความต้องการ  โดยมีเป้าหมายการใช้เพื่อการศึกษา ไม่ใช่เพื่อ
  การค้า

                      นิยามดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มให้ครอบคลุมถึงเครื่องมือ (tools) ที่ใช้สนับสนุน
  Open Education Resources เพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน  ดังนี้
  “แหล่งทรัพยากรเพื่อการสอน การเรียนรู้และการวิจัยที่อยู่ในมิติสาธารณะ เป็นทรัพย์สินทางปัญญา
  
ที่อนุญาติให้ใช้ฟรีเพื่อการศึกษา ครอบคลุมถึง หลักสูตร  วัสดุตามหลักสูตร (course material)  
  โมดูล (modules)ตำรา วิดีโอ แบบทดสอบ เครื่องมือเพื่อการสนับสนุนการเข้าถึงความรู้เนื้อหาการเรียน
  เครื่องมือที่เป็นโปรแกรมเพื่อการพัฒนา การประยุกต์แหล่งที่เปิดสิทธิ์การใช้ (open licenses)”

                      จุดเริ่มต้นของ Open Education Resources มาจากการพัฒนา ซอฟต์แวร์ฟรี
  (free software) ของสถาบัน MIT (The Massachusettes Institutes of Technology)ในปี 1997  จาก
  นั้นมีการนำซอฟต์แวร์ฟรี ไปใช้ในกิจกรรมการรับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์บนอินเทอร์เน็ต และมีการ
  
พัฒนา ซอฟต์แวร์ฟรีในชื่อ โอเพนซอร์ส (open sources software)  ที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการประเมิน
  เนื้อหา ความรู้ ที่นำไปสู่การเปิดวัฒนธรรมแบบเปิดและยังเป็นการเพิ่มคุณภาพของเนื้อหา ความรู้ ความ
  โปร่งใสในการกำกับดูแล และเพื่อความปลอดภัย รวมทั้งการให้ทุกคนนำไปผลิตและพัฒนาต่อ จากนั้น
  มีการใช้คำอื่นๆ ที่สื่อถึงพัฒนาการของ Open Education Resources เช่น Open Source Initiative (OSI) 
  ในปี 1998 มีการใช้คำว่า open content เป็นคำที่พยายามทำให้ โอเพนซอร์ส สื่อความหมายกว่างไปถึง
  วัสดุการศึกษาและเนื้อหาอื่นๆ ที่รวมถึงงานวิชาการ ดนตรี ศิลปะ วรรณศิลป์  ในปี 1999 มีการใช้คำว่า
  Open Publication License OPL)  เป็นคำที่ใช้เมื่อกล่าวถึงสิทธิ์ที่ให้ผู้ใช้สำเนา เผยแพร่ ผลิตซ้ำ ปรับแก้
  วัสดุการศึกษาที่มีสิทธิ์ หรือ ลิขสิทธิ์ โดยระบุการนำมาใช้เพื่อการศึกษาเท่านั้น ในปี 2001 มีการก่อตั้ง
  Creative  commons ซึ่งเป็นสัญญาอนุญาตด้านลิขสิทธิ์ที่เป็นที่เข้าใจ และเป็นสากล แสดงเป็นสัญลักษณ์

  ลักษณะต่างๆ โดยจัดทำขึ้นเพื่อให้