จดหมายเหตุบอกเล่า
เรื่อง ประชุมร่วมสภามหาวิทยาลัย นวัตกรรมอุดมศึกษาไทย
นางสาววราภรณ์ ยงบรรทม*
สภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรสูงสุดของมหาวิทยาลัยและเป็นสถาบันถาวรของสังคมที่ต้องอยู่
คู่ประเทศชาติไปตลอดกาลมีหน้าที่กำหนดและกำกับนโยบายูแลการบริหารจัดการให้เกิดการปฏิบัติที่มีี
ประสิทธิภาพ
และเกิดประสิทธิผล เป็นไปตามระบบคุณธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ ฉะนั้นจึงจำเป็น
ต้องมีการปรับเปลี่ยนสภามหาวิทยาลัยให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและกระแสโลกโดยมี
การตั้งสำนักงาน
สภามหาวิทยาลัยของแต่ละมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการประชุมร่วมสภา
มหาวิทยาลัย 3 สถาบันคือ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยความเห็นชอบของศาสตราจารย์ ดร. วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหา
วิทยาลัยทั้ง
3 แห่ง จึงริเริ่มให้มีการจัดประชุมร่วมประจำปี 3 สภามหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการปฏิรูป
สภามหาวิทยาลัย การประชุมครั้งแรก จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13-14 พฤษภาคม 2553 ณ จังหวัดนครปฐม
โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเป็นเจ้าภาพซึ่งถือเป็นการประชุมร่วม 3 สภามหาวิทยาลัยครั้งแรก
ของประเทศไทย ครั้งที่ 2 จัดประชุมเมื่อวันที่ 19-20 พฤษภาคม 2554 ณ จังหวัดเพชรบุรี โดยมี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 3 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 พฤษภาคม 2555 ณ
จังหวัดนนทบุรี เป็นการประชุมร่วม 4 สภามหาวิทยาลัย เนื่องจากสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีได้
สมัครเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นเจ้าภาพและการประชุมครั้งที่ 4 ในปี2556
มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ การประชุมร่วมสภามหาวิทยาลัยได้มีการเปิดโอกาส
ให้นายกสภามหาวิทยาลัย
หรือกรรมการสภามหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนเข้าร่วมประชุมในฐานะเป็น
ผู้สังเกตการณ์อีกด้วยอาทิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
ราชมงคลสุวรรณภูมิ มหาวิทยาลัยทองสุขและสถาบันคลังสมองของชาติ
จากการประชุมร่วมสภามหาวิทยาลัยได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยที่เห็นได้ชัดเจน
และนำมาสู่การปฏิบัติ อาทิ การมีส่วนร่วมของข้าราชการและพนักงานมหาวิทยาลัยในกระบวนการ
สรรหานายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะระหว่างกรรมการสภามหาวิทยาลัยในวงกว้างมากยิ่งขึ้น มีการสร้าง
เครือข่ายและใช้ทรัพยากรร่วมกัน มีการเชื่อมโยงความเชี่ยวชาญเพื่อทำประโยชน์ร่วมกันและผลักดัน
ให้เกิดผลงานในรูปแบบต่างๆ
ทำให้มหาวิทยาลัยได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน
การถ่ายทอดนโยบายของสภาไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการติดตามตรวจสอบและ
ประเมินผลงานของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ
..............................
|