สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเห็นคุณค่าและทรงสนับสนุนการทอผ้าไหม โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะมีพื้นที่แห้งแล้งทำให้พืชผลที่เพาะปลูกทางการเกษตรกรรมมีน้อยลงบ้างและไม่ได้ผลดีอยู่เนืองๆ ต้องประสบกับปัญหาแปรปรวนของดินฟ้าอากาศบ้าง ชาวบ้านจึงนิยมทอผ้าไหมไว้ใช้และทอกันเอง
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงมีพระราชดำริให้ทอผ้าไหมไว้จำหน่ายบ้างเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดตั้งโครงการสนับสนุนการทอผ้าไหมขึ้นเพื่อช่วยราษฎร โดยส่งเสริมให้ ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพิ่มขึ้น ตลอดจนแนะนำในด้านคุณภาพของผ้าไหม ซึ่งมีทั้งผ้าไหมธรรมดาและผ้าไหมมัดหมี่ มีพระราชดำริว่า ผ้าไหมนี้ถ้าราษฎรทอหรือมีวิธีการผลิต เพื่อให้ได้ผ้าไหมที่มีคุณภาพมาตรฐาน สีสันดี การผลิตที่ได้จำนวนสม่ำเสมอ สามารถส่งเป็นสินค้าออกจำหน่ายต่างประเทศได้
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน ตราสัญลักษณ์ "นกยูงพระราชทาน" มาเป็นตรารับรองมาตรฐานผ้าไหมไทยในระดับต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจต่อผู้ซื้อ มีอยู่ 4 ตราสำหรับผ้าไหม 4 ประเภท คือ
ใช้เส้นไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านเป็นทั้งเส้นพุ่งและเส้นยืน, เป็นเส้นไหมต้องสาวด้วยมือผ่านพวงสาวลงภาชนะ, ทอด้วยกี่ทอมือแบบพื้นบ้านชนิดพุ่งกระสวยด้วยมือ, ย้อมด้วยสีธรรมชาติ หรือสีเคมีที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม, ต้องผลิตในประเทศไทยเท่านั้น
ใช้เส้นไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านหรือพันธุ์ไทยปรับปรุงเป็นเส้นพุ่งและ/หรือเส้นยืน, เส้นไหมต้องสาวด้วยมือ, ทอด้วยกี่ทอมือ, ย้อมด้วยสีธรรมชาติ หรือสีเคมีที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และต้องผลิตในประเทศไทยเท่านั้น
ใช้เส้นไหมเป็นทั้งเส้นพุ่งและเส้นยืน, ทอด้วยกี่แบบใดก็ได้, ย้อมด้วยสีธรรมชาติ หรือสีเคมีก็ได้ และต้องผลิตในประเทศไทยเท่านั้น
ใช้เส้นไหมแท้เป็นส่วนประกอบหลัก, ต้องระบุส่วนประกอบของเส้นไหมมีหลักใบให้ชัดเจน, ทอด้วยกี่แบบใดก็ได้, ย้อมด้วยสีธรรมชาติ หรือสีเคมีก็ได้ และต้องผลิตในประเทศไทยเท่านั้น