เพลงบอก..บอกสงกรานต์

เพลงบอกเป็นเพลงพื้นเมืองที่นิยมเล่นแพร่หลายที่สุดในสมัยก่อน เมื่อถึงหน้าสงกรานต์ยังไม่มีปฏิทินบอกสงกรานต์แพร่หลายอย่างปัจจุบัน
จะมี แม่เพลงนำรายละเอียดเกี่ยวกับสงกรานต์ ออกป่าวประกาศแก่ชาวบ้าน โดยร้องเป็นเพลงพื้นบ้านและมีลูกคู่รับเป็นทำนองเฉพาะ
จึงมีชื่อเรียกว่า "เพลงบอก"

เพลงบอก


เพลงบอก เป็นการละเล่นพื้นเมืองของภาคใต้ที่แสดงออกถึงความมีเอกลักษณ์ของคนภาคใต้ ใช้สำเนียงภาษาถิ่นใต้ในการร้องบท คนเฒ่าคนแก่ของภาคใต้เล่าว่าเพลงบอกมีมานานแล้ว ถ้าพิจารณาจากชื่อเรียก เพลงบอก หมายถึง การบอกกล่าวข่าวสารต่างๆ ให้ชาวบ้านได้รู้ โดยแทนที่จะพูดหรือป่าวประกาศเป็นร้อยแก้ว ผู้ให้ข่าวหรือแม่เพลง จะกล่าวเป็นทำนองบทร้อยกรอง และจะมีลูกคู่คอยรับและส่งตามคำร้องของแม่เพลง และอีกประการหนึ่ง เพลงบอก มาจากกระบอกไม้ไผ่ ในอดีตเวลาแม่เพลงนำข่าวสารไปบอกกับชาวบ้านจะนำเอาเอกสารใส่ไว้ในกระบอกไม้ไผ่ เมื่อไปถึงหมู่บ้านหรือที่ๆ ชาวบ้านมาชุมนุมกันมากๆ เช่นที่วัด ก็จะเอาสารออกมาจากกระบอกไม้ไผ่แล้วบอกให้ชาวบ้านทราบ เพลงบอก 1 คณะ ประกอบด้วยแม่เพลง 1 คน และลูกคู่ประมาณ 2-3 คน

โอกาสการเล่น





          ความนิยมในการเล่นเพลงบอก เดิมเชื่อว่าเป็นการเล่นที่เกี่ยวข้องกับประเพณีสงกรานต์ คือเป็นการนำเอาเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและรายละเอียดเกี่ยวกับวันสงกรานต์มาบอกให้ ชาวบ้านได้ทราบ เพราะแต่ก่อนนี้ความรู้อ่านออกเขียนได้มีน้อย เพลงบอกจึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านให้ ความสนใจเนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม การทำนา ทำไร่ ซึ่งต้องพึ่งพาธรรมชาติ ดังนั้นการทราบรายละเอียดของฝน การให้น้ำของนาค การทราบชื่อนางสงกรานต์ จึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้าน ต้องการทราบเพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการประกอบอาชีพของตน นอกจากการเล่นเพลงบอกในวันสงกรานต์แล้ว ในเวลาต่อมีการนำเอาเพลงบอกไปเล่นในงานอื่นๆ ด้วย เช่น งานประจำปี งานบวชนาค งานแต่งงาน งานศพ งานขึ้นบ้านใหม่ และงานบุญอื่นๆ ตามความประสงค์ของเจ้าภาพ

เพลงบอกสงกรานต์





          เพลงบอกเป็นการละเล่นพื้นบ้านของภาคใต้ตอนบนและภาคใต้ตอนกลาง และมีการเล่นกันอย่างแพร่หลายในจังหวัดนครศรีธรรมราช มานานกว่า 200 ปี โดยจะเล่นกันประมาณปลายปีประมาณเดือนสี่หรือย่างเดือนห้า ซึ่งเป็นเวลาที่ชาวนาภาคใต้ส่วนใหญ่ทำการเก็บเกี่ยวข้าวขึ้นยุ้งฉางเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนพลบค่ำตามละแวกบ้านจะได้ยินเสียงเพลงบอกแทบทุกบ้าน คณะเพลงบอกจะออกตระเวณตามบ้านใกล้เรือนเคียง เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูรับ แม่เพลงก็จะขับกล่อมเพลงบอก โดยเนื้อความตอนแรกมักจะเป็นบทไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และกล่าวขมเชยเจ้าของบ้าน แล้วเจ้าของบ้านจะเชิญขึ้นบนเรือน ยกเอาหมากพลู บุหรี่ หรือบางที่ก็นำเหล้ายาปลาปิ้งออกมาเลี้ยง เจ้าของบ้านบางคนอาจลองภูมิรู้ของเพลงบอกบอกโดยถามถึงเรื่องราวทั่วๆ ไป เช่น หลักธรรมคำสอน ความเป็นมาของวันสงกรานต์ แม่เพลงก็จะขับเป็นเพลงบอกเล่าให้ฟัง และก่อนจะอำลากลับไปบ้านอื่นๆ คณะเพลงบอกจะขับเพลงบอกให้ศีลให้พรตามธรรมเนียม และคณะเพลงบอกก็จะตระเวนกันต่อไปจนตลอดรุ่งจึงจะเลิก รายได้จากการเล่นเพลงบอกสงกรานต์นิยมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งถวายวัด อีกส่วนหนึ่งแบ่งปันกันในคณะสำหรับเที่ยวและเล่นการพนันในงานสงกรานต์ซึ่งเรียกว่า "เล่นว่าง"

การร้องเพลงบอก


เครื่องดนตรี




          แต่เดิมการร้องเพลงบทใช้การปรบมือหรือการใช้กระบอกไม้ไผ่กระทุ้งให้เกิดเสียงเป็นจังหวะประกอบการร้องบท แต่เครื่องดนตรีที่เพลงบอกใช้และสืบทอดมาถึงปัจจุบันคือ ฉิ่ง 1 คู่ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเพลงบอกเคยใช้กรับ 1 คู่ และแม่เพลงนิยมถือพัดด้ามเล็กเป็นพัดกระดาคลี่กางพับเก็บได้ง่ายและรวดเร็จ จุดประสงค์ของการถือพัดเพื่อให้ดูสง่า มีความภูมิฐานสมกับเป็นแม่เพลง และแม่เพลงก็ใช้พัดทำจังหวะในการร้องบทด้วย แต่ปัจจุบันนี้กรับและพัดเลิกใช้แล้วด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ คงเหลือแต่ฉิ่ง 1 คู่เพื่อตีให้จังหวะเท่านั้น

เพลงบอกธรรมบาล





          เพลงบอกธรรมบาล เป็นเพลงบอกพื้นบ้านของนายเจิม กาญจนพฆัคฆ์ จังหวัดระนอง กล่าวถึงประเพณีสงกรานต์ ตอนพระมหาพรหมลงมาจากสวรรค์ เพื่อทายปัญหาแก่ธรรมบาลมหาพรหม โดยทายปัญหาไปว่ามนุษย์ ๓ ราศี นั่นคืออะไรธรรมบาลตอบไม่ได้ ขอผลัดไปเจ็ดวัน จึงจะให้คำตอบจนกระทั่งครบเจ็บวันแล้ว ธรรมบาลก็ยังหาคำตอบไม่ได้ธรรมบาลเดินหาคำตอบไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเดินลึกเข้าไปในป่า ธรรมบาลมีความสามารถในการรู้เสียงนกได้ พบนกสองตัวคุยกันอยู่บนปลายต้นไม้ใหญ่ นกตัวเมียถามนกตัวผู้ว่า พรุ่งนี้เราจะไปกินอาหารที่ไหน นกคุยกันว่า พรุ่งนี้เราจะไปกินศพธรรมบาลเพราะธรรมบาลตอบปัญหาไม่ได้ ดังปรากฏในบทเพลง ดังนี้

          (แม่เพลง)… เออเจ้าปักษาของพี่ เอิ้งเอ๋ยและปักษาของพี่ และก็ต่อพรุ่งนี้เราโบกบินจะไป กินที่ไหน (ลูกคู่) รับ ไปกินและที่ไหนเอย (แม่เพลง,ลูกคู่) พอพรุ่งนี้เช้าเราโบกบินเอิ้งเอ๋ย ไปกินที่ไหนเอย (แม่เพลง) ออ สามีพร่องน้องนก (ลูกคู่) รับ โอ้ละเห น้องนก (แม่เพลง) ออ สามีพร่องน้องนก (ลูกคู่) รับ ว่าทอยช้าฉ้าเหอ น้องนก (แม่เพลง) เอิ้งเฮ้ย เจ้าอย่าตกใจ น้อง เฮ้ย และเจ้าอย่าตกใจ พออนูทัยส่องสางนั่นแหละ สว่างวัน (ลูกคู่) รับ นั่นแหละสว่างวันเอย (แม่เพลง,ลูกคู่) พออนูทัยส่องสางหวันขึ้นและ หว่างวันเอย (แม่เพลง) เราไปกินศพของธรรมบาล (ลูกคู่) รับ โอ้ละเห ธรรมบาล...

เกี่ยวกับนิทรรศการ




วาที ทรัพย์สิน (2536) เพลงบอก : สื่อพื้นบ้านภาคใต้กับการถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ ต่อเนื่อง. วารสารวัฒนธรรมไทย, 30(11), 38-41.
เพลงบอก (2559, 8 เมษายน) สืบค้นจาก http://ich.culture.go.th/ index.php/th/ ich/performing-arts/236-performance/268-----m-s