เอกองค์ อัครศิลปิน


















    
                หลังจากที่เสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ขณะทรงศึกษาอยู่ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
   ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักเรียนไทยไปร่วมงานสังสรรค์และเล่นดนตรีร่วมด้วย ณ พระตำ
   หนักวิลลาวัฒนา แม้ในระหว่างที่ทรงพระประชวรอยู่ และคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาทูลของ
   ให้ทรงงดเว้นการทรงเป่าเครื่องเป่าทุกชนิด วันหนึ่งโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์
   เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงเป่าแซกโซโฟนถวาย ส่วนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเอื้อมพระ
   หัตถ์ไปคร่อมและทรงใช้นิ้วพระหัตถ์ดีดเป็นเพลง ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
   ซึ่งประทับอยู่อีกฟากหนึ่งของพระตำหนักตกพระทัยรีบเสด็จเข้าไปทอดพระเนตรพร้อมกับข้า
   ราชบริพารและคณะแพทย์ จึงกลายเป็นเรื่องประหลาดใจว่าคนหนึ่งเป่า แต่พระบาทสมเด็จ
   พระเจ้าอยู่หัวทรงใช้นิ้วดีดออกมาเป็นเพลงได้

                ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ นิวัติพระนครเป็นการถาวรแล้ว ได้ทรง
   ดนตรีอยู่ในหมู่ข้าราชบริพาร นักดนตรีสมัครเล่น หรือแม้แต่นักอาสาพัฒนาผู้ไม่มีความรู้เรื่อง
   ดนตรี ซึ่งพร้อมที่จะฝึกหัดบรรเลง อันเป็นที่มาของวงดนตรีส่วนพระองค์ ได้แก่ “วงลายคราม”
  
”วง อ.ส.วันศุกร์” และ  ”วงสหายพัฒนา”