พระชฎา


       ลอมพอกถูกพัฒนามาเป็นศิราภรณ์โลหะที่เรียกว่า ชฎา ซึ่งมาจากคำว่า “ชัฎ” ที่แปลว่ารกหรือยุ่ง ตามลักษณะการเกล้าผมของฤษี
ที่เรียกว่าชฎิลและมีเกี้ยวประดับ เป็นเครื่องราชศิราภรณ์สำหรับพระมหากษัตริย์และเจ้านายฝ่ายหน้าฝ่ายในที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีลักษณะเหมือนมงกุฎประกอบด้วยลวดลายรักร้อย กระจัง และดอกไม้ไหว มีพระกรรเจียกหรือจอนหู สายรัดใต้พระหนุ มีลักษณะเป็นเกี้ยวกระหวัดเรียงกันขึ้นไปสามชั้น พระชฎามีหลายองค์แตกต่างกันที่ยอดและพระยี่ก่า (ขนนกการะเวก) จึงมีชื่อเรียกหลายชื่อตามลักษณะที่แตกต่างกัน

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาตทรงเกี้ยวในพิธีโสกันต์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าอัพพันตรีปชา ทรงเกี้ยวในพิธีโสกันต์


พระชฎากลีบ


       เรียกอีกแบบว่า ชฎาพระกลีบ สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทำด้วยทองคำลงยาราชาวดีประดับเพชร ยอดเป็นรูปกระโจมยอดบัด ปักพวงสนใบทองอยู่บนยอดและพระกรรเจียก มีเกี้ยวชั้นเดียวและทำเป็นเชิงบาตรซ้อนเจ็ดชั้น บนเกี้ยว ชั้นล่างสุดประดับดอกไม้ไหว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงชฎาพระกลีบในคราวเสด็จพระราชดำเนินทางสถลมารคจากพระบรมมหาราชวังไปวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

พระชฎากลีบ

พระชฎากลีบในรัชกาลที่ 5


พระชฎาเดินหน


       สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทำด้วยทองคำลงยาราชาวดีประดับอัญมณีนพรัตน์ มีเกี้ยวสองชั้น ประกอบด้วยใบสนเป็นรูปพุ่มใบเทศและมีกรรเจียก ยอดค่อนข้างแบน จำหลักเป็นกลีบ ปลายสะบัดไปข้างหลัง เป็นยอดเดี่ยว ปลายมนช้อยเชิดขึ้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระชฎาเดินหนในการเสด็จออกมหาสมาคมพระที่นั่ง อมรินทรวินิจฉัยในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระชฎาเดินหนในรัชกาลที่ 1

พระชฎาเดินหนในรัชกาลที่ 5


พระชฎาห้ายอด


       เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระชฎามหากฐิน ปลายยอดแตกออกเป็นห้าแฉก ใบสนที่ปักประดับก็มีห้าแฉก มีหลายองค์ สร้างโดยพระมหากษัตริย์หลายรัชกาล เช่นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระชฎาห้ายอดทำด้วยทองคำลงยาราชาวดีประดับเพชร มรกต ทับทิม ยอดปักขนนกการะเวกสีขาว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระชฎามหากฐินน้อยในคราวเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครทางสถลมารคในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระชฎามหากฐินในรัชกาลที่ 4
พระชฎามหากฐินในรัชกาลที่ 6