ปัจจุบันไดโนเสาร์แล้ว  เหลือเพียงซากกระดูกส่วนต่าง ๆ ที่เรียกว่า  ฟอสซิลไดโนเสาร์  มีแนวคิดหรือสมมติฐานเกี่ยวกับการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์  เช่น  การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเล  สภาพภูมิอากาศ  และการระเบิดจากนอกโลก (supernova)  แต่มี  2  สมมติฐานที่ได้รับความสนใจคือ

การพุ่งชนโลกของดาวเคราะห์น้อย (Asteroid  Impact)  ทำให้เกิดการระเบิดและฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองสู่บรรยากาศโลก  ส่งผลให้เกิดความมืดมิดและความหนาวเย็นอย่างฉับพลันอยู่นานเป็นเดือน ๆ ทำให้ไดโนเสาร์ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้  ซึ่งมีหลักฐานของการค้นพบโครงสร้างที่เชื่อว่าเกิดจากการชนของดาวเคราะห์น้อย  ที่แหลมยูคาตาน (Yucatan) ประเทศเม็กซิโก

การระเบิดของภูเขาไฟที่ที่ราบสูงเดกข่าน (Deccan Traps Volcanism) ประเทศอินเดีย  ซึ่งเป็นการระเบิดที่รุนแรงที่สุดในช่วงอายุของโลก  และเป็นการระเบิดเนื่องจาก  Mantle Plume  หรือ  Hot spot  จากใต้โลก  เป็นผลทำให้ลาวาหินบะซอลต์ (Basaltic Lava) จำนวนมหาศาลไหลสู่เปลือกโลก  ปกคลุมพื้นที่กว่า  1  ล้านตารางไมล์  และหนากว่า  1  ไมล์  เกิด  Mantle Degassing  ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์และไอน้ำถูกนำขึ้นสู่ผิวโลกด้วยอัตราที่ผิดปกติ  ก่อให้เกิดชั้น  Green House Gases  ในบรรยากาศกักเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้ที่ผิวโลกไม่ให้มีการถ่ายเท  อุณหภูมิจึงสูงขึ้น  ทำให้วัฎจักรของคาร์บอนและออกซิเจนเปลี่ยนแปลง  นำไปสู่การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์