ปัจจุบันได้มีการค้นพบรอยเท้าของไดโนเสาร์ในประเทศไทยหลายแหล่ง  ที่เป็นเครื่องยืนยันว่าไดโนเสาร์มีตัวตน

ปการพบรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ยักษ์  ต้นน้ำของลำห้วยผึ้ง  เขตวนอุทยานภูแฝก  จังหวัดกาฬสินธุ์  จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์ประเภทเทอโรพอด  ในกลุ่มคาร์โนซอร์ (Carnosaur)  ชนิดกินเนื้อ  อายุประมาณ  140  ล้านปี  เป็นไดโนเสาร์ที่เดินด้วยสองข้างหลัง  มีความสูงถึงสะโพกมากกว่า  2  เมตร  รอยเท้ามีทั้งหมด  21  รอย  เป็นรอยเท้ามีความชัดเจน  7  รอย  รอยเท้าที่พบมีนิ้วเท้า  3  นิ้ว  ขนาดประมาณ  45  เซนติเมตร  กว้าง  40  เซนติเมตร  ระยะก้าว  110-120  เซนติเมตร  รอยเท้าประทับอยู่บนลานหินยุคครีเตเชียสตอนต้น  จากรอยเท้าที่พบทำให้ทราบว่า  ชั้นหินทรายในบริเวณนี้ในอดีตมีสภาพเป็นหาดทรายริมน้ำ  เป็นที่ที่ไดโนเสาร์เดินผ่านหรือหากินอยู่ในบริเวณหาดทรายชุ่มน้ำแถบนี้  รอยเท้าที่เกิดขึ้นไม่ได้ถูกคลื่นซัดให้ลบเลือน  โดยอาจโผล่พ้นน้ำ  ทำให้แดดเผาจุนคงรูปร่างอยู่  หลังจากนั้นกระแสน้ำได้พัดพาเอาตะกอนมาปิดทับลงไปเป็นชั้นตะกอนใหม่  รอยเท้านั้นจึงยังคงอยู่ในชั้นตะกอนหินเดิม  ต่อมาชั้นตะกอนแข็งตัวกลายเป็นหิน  รอยเท้าจึงปรากฏอยู่ในชั้นหินนั้น  และปัจจุบันธรรมชาติได้ทำลายชั้นหินส่วนที่ปิดทับรอยเท้าออกไป  ทำให้เห็นรอยเท้าที่ไดโนเสาร์ทิ้งเอาไว้  และเป็นเครื่องยืนยันว่าไดโนเสาร์มีตัวตน

รอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ที่ถูกพบในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง  จังหวัดเลย  จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่พวกคาร์โนซอร์  ที่เดินด้วยสองเท้าหลัง  มีอายุราว  140  ล้านปี  เนื่องจากรอยเท้าดังกล่าวนี้พบอยู่ในชั้นหินทรายของกรวดหินภูพานในยุคครีเตเชียสตอนต้น  แต่ละรอยมีขนาดกว้าง  35  เซนติเมตร  ยาว  31  เซนติเมตร  ลึก  3-4  เซนติเมตร  นิ้วตรงกลางเป็นส่วนที่ยาวที่สุดและมีส่วนที่ลึกที่สุดอยู่ตรงปลาย  แสดงให้เห็นว่าเป็นรอยเล็บเท้าแหลมคมที่จิกลงพบพื้น  คาดว่าไดโนเสาร์ชนิดนี้น่าจะมีความสูงจากเท้าถึงสะโพกประมาณ  1.78  เมตร