ห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กับมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์ ซึ่งมหาวิทยาลัยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้ใช้พระนามทั้งสองพระองค์เป็นชื่อห้อง เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2536 โดยได้มอบหมายให้สำนักบรรณสารสนเทศ รวบรวมสารสนเทศพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและเหตุการณ์ในรัชสมัยมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในขณะดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดห้อง พระองค์ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมป้ายชื่อห้อง จากนั้นเสด็จฯ ทอดพระเนตรภายในห้อง และทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/13.King-Rama-XII-room.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
ห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ถือเป็นห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์เฉพาะด้านที่เป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของชาติเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญที่เกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ระหว่าง พ.ศ. 2468 – 2477 แนวคิดการออกแบบเพื่อสะท้อนพระราชจริยาวัตรความเป็นผู้สนพระทัยใฝ่หาความรู้ โดยใช้ศิลปะในยุคสมัยรัชกาลที่ 7 ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และต้นแบบการตกแต่งส่วนหนึ่งมาจากวังศุโขทัย ซึ่งเป็นวังที่ประทับ เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา
นิทรรศการที่จัดแสดงภายในห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/01.King-Rama-XII-room-1.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 มีพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ” เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เมื่อ พ.ศ. 2448 หลังจากพระราชพิธีโสกันต์ทรงได้รับสถาปนาเป็น “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ กรมขุนศุโขไทยธรรมราชา” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าพระเจ้าอยู่หัวเสวยราชสมบัติ คำนำพระนามเปลี่ยนเป็น “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ กรมขุนศุโขทัยธรรมราชา” ทรงสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยอีตัน และโรงเรียนนายร้อยวูลิช ประเทศอังกฤษ ทรงเข้ารับราชการในกองทัพไทย และอภิเษกสมรสกับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2461 ต่อมาทรงได้รับการสถาปนาเป็น “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา” เมื่อ พ.ศ. 2468
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/02.King-Rama-XII-room.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการพระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2447 พระนามเดิม คือ “หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์” เป็นพระธิดาองค์เดียวในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงอาภาพรรณี พระบิดาได้ทรงนำเข้าถวายตัวแด่สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถเพื่อเรียนรู้วิชาการและขนบธรรมเนียม ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนราชินี หลังจากผ่านการพระราชพิธีเกศากันต์ได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศุโขทัยธรรมราชา
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/03.King-Rama-XII-room-1024x683.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการพระราชพิธีอภิเษกสมรส
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2461 สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศุโขทัยธรรมราชาทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ ณ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระราชวังบางปะอิน ตามพระราชประสงค์ที่กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า “บัดนี้ข้าพระพุทธเจ้าได้ปฏิพัทธ์รักใคร่กับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี ธิดาแห่งเสด็จน้า และข้าพระพุทธเจ้าอยากจะใคร่ทำการเสกสมรสกับเจ้าหญิงนั้น…” การอภิเษกสมรสครั้งนี้นับเป็นรายแรกที่ทรงพระราชดำริให้มีการสอบถามความสมัครใจของคู่ที่จะสมรส ได้ทรงลงพระนามในสมุด “ทะเบียนแต่งงาน”
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/04.King-Rama-XII-room-1024x683.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระราชพิธีจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 มีการพระราชพิธีที่สำคัญ อาทิ พระราชพิธีสรงพระมูรธาภิเษก ทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องราชูปโภค และเครื่องประดับพระอิสริยยศ มีพระปฐมบรมราชโองการว่า “…ดูกรพราหมณ์ บัดนี้เราทรงราชภาระ ครองแผ่นดินโดยธรรมสม่ำเสมอ เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและสุขแห่งมหาชน เราแผ่ราชอาณาเหนือท่านทั้งหลายกับโภคสมบัติ เป็นที่พึ่งจัดการปกครองรักษาป้องกันอันเป็นธรรมสืบไป ท่านทั้งหลายจงวางใจอยู่ตามสบายเทอญ” โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณีขึ้นเป็น “สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี” นับเป็นครั้งแรกในสมัยรัตนโกสินทร์ที่มีการเฉลิมพระยศสถาปนาสมเด็จพระบรมราชินี นอกจากนี้มีพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร และเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครทางสถลมารค
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/05.King-Rama-XII-room-1024x599.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการพระราชกรณียกิจในประเทศ
ตลอดรัชสมัย 9 ปี พ.ศ. 2468 – 2477 พระราชกรณียกิจเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาตินานัปการ ดังพระราชดำริที่ว่า “…เจ้าฝรั่งเขาไม่ได้ทำอะไรกันเสียเลย แต่เจ้าไทยผิดกันมาก เราถือแบบเมืองอินเดียครั้งโบราณว่าเจ้านั้นเปนกษัตริย์ คือเปนพวกที่เกิดมากสำหรับทำหน้าที่เปนหัวหน้าราษฎร ต้องปกครองดูแลทุกข์ศุขของราษฎร ต้องนึกถึงความศุขของประชาชน ที่ตัวมีหน้าที่ดูแลยิ่งกว่าความศุขของตัวเอง…” พระราชกรณียกิจที่สำคัญ อาทิ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศ โปรดเกล้าฯ ให้ขยายพื้นที่ประกาศใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. 2464 ขยายหลักสูตรการศึกษาถึงขั้นปริญญาตรีและเสด็จไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรก พระราชทานพระราชวังบวรสถานมงคลให้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานและเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดหอสมุดและพิพิธภัณฑ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์หนังสือสอนพระพุทธศาสนาแก่เด็กและทรงบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามต่าง ๆ
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/06.King-Rama-XII-room-1024x614.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการพระราชกรณียกิจต่างประเทศ
เสด็จพระราชดำเนินต่างประเทศเพื่อเจริญพระราชไมตรีและนำประโยชน์สู่ประเทศชาติ ดังความในพระราชดำรัสว่า “…ได้มีโอกาสเห็นกิจการต่างๆ ทั้งในทางการเมืองและความเป็นอยู่แห่งพลเมืองของเรา กับได้สังเกตที่มาของสิ่งเหล่านี้ คือ เศรษฐกิจ, อุตสาหะกรรม, วิทยาศาสตร์ และของต่างๆ ที่ได้ประดิษฐ์ขึ้น อันเป็นทางนำให้เกิดความคิดสำหรับหน้าที่ผู้บัญชาการเมือง, นับว่าเราได้ประโยชน์ในทางเปิดหูเปิดตาเป็นอย่างดี. อนึ่งเราเว้นเสียมิได้ที่จะต้องกล่าวถึงความไมตรีระหว่างเพื่อนบ้านทั้งใกล้ไกลตลอดทางที่ผ่านไปมา เริ่มตั้งแต่อินโดจีน, ฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้, ญี่ปุ่น, คานาดา, และสหปาลีรัฐอเมริกาอันเป็นที่หมายปลายทาง…” เสด็จพระราชดำเนินต่างประเทศ 4 ครั้ง คือ พ.ศ. 2472 เสด็จฯ สิงคโปร์ ชวา บาหลี พ.ศ. 2473 เสด็จฯ อินโดจีน พ.ศ. 2474 เสด็จฯ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและแคนาดา พ.ศ. 2477 เสด็จฯ ยุโรป
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/07.King-Rama-XII-room.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี
พระราชพิธีจัดขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2475 เนื่องในวาระ “สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์หรือกรุงเทพมหานครครบ 150 ปี” นับตั้งแต่ พ.ศ. 2325 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีตามประเพณีที่ได้ปฏิบัติสืบกันมา วันพระราชพิธีในหมายกำหนดการมี 9 วัน โดยมีรายการงานพิธีที่สำคัญ อาทิ พระราชพิธีเปิดปฐมบรมราชานุสรณ์และสะพานพระพุทธยอดฟ้า ฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดารามและวัดสุทัศน์เทพวรารามหลังมีการบูรณปฏิสังขรณ์ เสด็จพระราชดำเนินด้วยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคและทางชลมารค
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/08.King-Rama-XII-room-1.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475
วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม ลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามเพื่อพระราชทานพระราชอำนาจแก่ปวงชนชาวไทย นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรกหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 พระองค์มีพระราชดำริเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญว่า “…อันการปกครองแบบรัฐธรรมนูญนี้ ข้าพเจ้าได้มีความเลื่อมใสอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมา และเมื่อได้มีรัฐธรรมนูญขึ้นแล้ว ข้าพเจ้าก็สนใจอันจะให้กิจการดำเนินไปตามระบอบรัฐธรรมนูญทุกประการ…” และมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งพระยามโนปกรณ์นิติธาดาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก รัฐบาลจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญ 3 วัน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/09.King-Rama-XII-room-1024x683.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการทรงสละราชสมบัติ
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติความตอนหนึ่งว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร” ด้วยพระสุขภาพพลานามัยที่ไม่สมบูรณ์และพระราชดำริที่ไม่ตรงกันกับรัฐบาล จึงทรงตัดสินพระราชหฤทัยสละราชสมบัติ ขณะประทับ ณ พระตำหนักโนล เมืองแครนลี ประเทศอังกฤษ หลังจากที่ทรงสละราชสมบัติแล้วก็ยังคงประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ต่อมาทรงพระประชวรด้วยโรคพระหทัยและเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 พระชนมายุ 48 พรรษา
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/10.King-Rama-XII-room-1024x683.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการหนังสือส่วนพระองค์
มหาวิทยาลัยได้รับมอบหนังสือส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจากคุณหญิงมณี สิริวรสาร จำนวน 1,728 เล่ม ซึ่งสะท้อนความสนพระราชหฤทัยเรื่องการอ่านหนังสือ ดังข้อความที่ทรงสอนพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาตเกี่ยวกับประโยชน์ของการอ่านหนังสือว่า “ถ้าไม่ชอบอ่านหนังสือแล้วก็มีแต่จะโง่ลงไปทุกวัน เพราะมีความรู้อะไรขึ้นก็ไม่ต้องรู้ ถ้าอ่านหนังสือ แม้เปนนิทาน หรือ novel เรื่องอ่านเล่น ก็คงได้รับความรู้อะไรบ้างไม่มากก็น้อยทุกทีไป เพราะฉะนั้นควรพยายามอ่านเสียบ้าง” และยังปรากฎในป้ายบรรณสิทธิ์ของหนังสือส่วนพระองค์บางตอนว่า “ฉันขอเพียงหนังสือเล่มหนึ่งกับมุมหนึ่ง ห่างไกลจากแสงแพรวและความขัดแย้งอลหม่าน; ขอไม้เท้ากับไม้ปลายขออย่างละด้าม; อีกความสงบและความหอมหวานของชีวิต; โอ้ โลกที่ช่างโอัอวดเอ๋ย จงปล่อยให้ฉันได้ครองมุมของฉัน; ราชาแห่งอาณาจักรนี้ หนังสือของฉัน; อาณาบริเวณที่สมัยนิยมได้ทอดทิ้งไป; จงผ่านฉันไป; บรรดาท่านนักเสี่ยงโชคเพียงเพื่อความรุ่งโรจน์เอ๋ย; จงอย่าได้มาขัดจังหวะทำนองอันไพเราะแห่งเรื่องราวของฉันเลย”
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/11.King-Rama-XII-room-1024x596.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
นิทรรศการสิ่งของส่วนพระองค์และทรัพยากรสารสนเทศ
ห้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เป็นแหล่งเรียนรู้พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องในรัชสมัย โดยได้รวบรวมสิ่งของส่วนพระองค์และทรัพยากรสารสนเทศไว้ให้บริการ อาทิ หนังสือ วิทยานิพนธ์ รายงานการวิจัย เอกสารจดหมายเหตุ ภาพถ่าย วีดิทัศน์ ไมโครฟิล์ม ไมโครแจ็กเก็ต แผ่นเสียงและสื่อดิจิทัล เพื่อให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ตามอัธยาศัย สอดคล้องกับพระราชดำรัสเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต ความตอนหนึ่งว่า “…ต้องพยายามเรียนตลอดชีวิต ใครเขามีวิชชาดีที่ไหนต้องพยายามเรียน เรียนมาแล้วต้องคิดต่อว่าจะหาวิธีอย่างไร มาใช้ให้เหมาะสำหรับประเทศของเรา ไม่ใช่จะเอาอย่างเขาตะบันไป…”
![](https://ez9xjbpmmbt.exactdn.com/wp-content/uploads/2023/05/12.King-Rama-XII-room.jpg?strip=all&lossy=1&ssl=1)
รางวัลที่ได้รับจากการเผยแพร่พระเกียรติคุณและการดำเนินงานในฐานะเป็นแหล่งเรียนรู้
- รางวัลชมเชย ผลงานสื่อมวลชนดีเด่นเพื่อเยาวชน ครั้งที่ 18 ประจำปี 2543 โปรแกรมชุดเทิดพระเกียรติในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
- รางวัลดีเด่น ผลงานสื่อมวลชนดีเด่นเพื่อเยาวชน ครั้งที่ 19 ประจำปี 2544 โปรแกรมชุดพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวด้านศิลปวัฒนธรรม
- รางวัลสุริยศศิธร รางวัลชนะเลิศปฏิทินดีเด่น ประจำปี 2554 ชนิดสมุดบันทึก ประเภทเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ชุด 70 ปี ความรักของพระปกเกล้าฯ
- รางวัลสุริยศศิธร รางวัลชนะเลิศปฏิทินดีเด่น ประจำปี 2556 ชนิดตั้งโต๊ะ ประเภทเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ชุด 120 ปี บารมีพระปกเกล้า
- รางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ไทย ประจำปี 2565 รางวัลพิพิธภัณฑ์ไทยสรรเสริญ จากสมาคมพิพิธภัณฑ์ไทย