“ การประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน”
การใช้งานเครื่องปรับอากาศในยุคปัจจุบันมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก การเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมและประหยัดพลังงานเป็นสิ่งที่สำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้การดูแลรักษาและการใช้งานอย่างถูกวิธีสามารถช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานและยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศได้
การปลูกฝังความรู้เกี่ยวกับการใช้งานเครื่องปรับอากาศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับสังคมและชุมชน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นจากการตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม ปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้งาน และการทำความสะอาดฟิลเตอร์เป็นประจำก็สามารถช่วยลดการใช้พลังงานและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้
เครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมอุณหภูมิความชื้น และความสะอาดของอากาศภายในอาคารหรือยานพาหนะ การใช้เครื่องปรับอากาศทำให้เราสามารถสร้างสภาพอากาศที่สบายและเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยและการทำงาน ไม่ว่าจะในบ้าน สำนักงาน หรือสถานที่อื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดความร้อนและความชื้นในฤดูร้อน ทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย และในบางรุ่นยังสามารถกรองฝุ่นและเชื้อโรคออกจากอากาศได้อีกด้วย เครื่องปรับอากาศจึงเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสะดวกสบายและส่งเสริมสุขภาพของคนในยุคปัจจุบัน
ขนาดของเครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศมีขนาดเป็น BTU ย่อมาจาก British thermal unit เป็นหน่วยวัดที่บอกถึงประสิทธิภาพในการทำความเย็น ซึ่งการเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดห้องที่ใช้งาน
• ถ้าหากใช้แอร์ที่มี BTU ต่ำไป จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และเครื่องทำงานหนักเกินไป ทำให้เครื่องปรับอากาศเสียได้เร็วขึ้น
• ถ้าหากใช้แอร์ที่มี BTU สูงเกินไป ทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดการทำงานบ่อย ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทำให้มีความชื้นในห้องสูง อยู่แล้วไม่สบายตัว
เทคนิคการประหยัดพลังงานไฟฟ้าให้กับเครื่องปรับอากาศ
1. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยรอบ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้กับอาคาร โดยการปลูกต้นไม้โดยรอบอาคาร ช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่จะเข้าผนังภายนอกได้เป็นอย่างดี เพราะต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น จะให้ความเย็นเท่ากับเครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU
2. ตั้งเวลาปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน ภายในห้องหรืออาคารที่มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน จอคอมพิวเตอร์เป็นแหล่งกำเนิดความร้อนอย่างดี และเพิ่มภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในห้อง ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักและเปลืองกระแสไฟฟ้ามาก ผู้ใช้งานควรตั้งโปรแกรมปิดอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งาน
3. จัดวางตู้เอกสารให้ถูกต้อง พิจารณาผนังห้องที่ได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์มากที่สุด คือ ผนังที่อยู่ทิศตะวันตกและทิศตะวันออกซึ่งจะมีความร้อนสูง วิธีแก้ไขคือ การวางตู้เอกสารชิดติดกับฝาผนังทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของอาคาร เพื่อช่วยป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนัง กรณีวางตู้ชิดฝาผนังที่เป็นบานกระจก ต้องระวังสิ่งของภายในตู้ที่ไม่สามารถทนความร้อนได้
4. นำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออก อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด จะปล่อยความร้อนออกมาเท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่อุปกรณ์นั้นใช้งาน ควรนำอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกนอกห้องบ้าง
5. การดูแลบำรุงรักษาเครื่องอยู่เสมอ หรือ ที่เรียกว่า การล้างแอร์ ซึ่งการหมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อน แผ่นกรองฝุ่น และแผงทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ จะทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักมาก และไม่สิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้า การล้างแอร์ต้องดำเนินการทุก 6 เดือน โดยเฉพาะแผ่นกรองฝุ่นและแผงระบายความร้อน ส่วนการล้างทำความสะอาดแผงความเย็น ควรดำเนินการทุก 1 ปี
6. ผ้าม่านเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะช่วยสะท้อนความร้อนภายในห้องออกสู่นอกห้องได้ง่าย เป็นการช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง โดยการปิดผ้าม่านจะช่วยลดความร้อนจากภายนอก ทำให้ไม่สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า
7. ปิดหน้าต่างและประตูให้สนิท ทำให้ไม่มีอากาศร้อนชื้นจากภายนอกเกิดรั่วไหลเข้าไปในห้อง ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานดีและมีประสิทธิภาพ ทำให้เปลืองกระแสไฟฟ้าน้อยลง กรณีภายในห้องมีรอยแยก ลมรั่ว หรือประตูหน้าต่างปิดไม่สนิท จะต้องซ่อมแซมแก้ไขให้สภาพห้องถูกปิดมากที่สุด จะทำให้เสียค่าไฟฟ้าน้อยลง
8. ปิดหลอดไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น หลอดไฟฟ้าที่เปิดสว่างจะทำให้เกิดพลังงานความร้อนโดยรอบ ความร้อนจะเป็นภาระหนักสำหรับเครื่องปรับอากาศ ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศสูญเสียพลังงานส่วนหนึ่งในการนำความร้อนทิ้งออกสู่ภายนอกห้อง
9. เปิดและปรับตั้งอุณหภูมิ กรณีมีเครื่องปรับอากาศมากกว่า 1 ตัว การเปิดเครื่องปรับอากาศให้ทำงานพร้อมกันทุกเครื่องจะเกิดการประชากของกระแสไฟฟ้าทำให้เสียค่าไฟฟ้ามากขึ้นโดยไม่จำเป็น เพื่อประหยัดพลังงานควรเปิดแต่ละเครื่องให้ทำงานไม่พร้อมกัน และควรตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25°C เป็นอุณหภูมิห้องที่ทำให้เย็นสบาย แต่ถ้าปรับตั้งอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1°C จะลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึงร้อยละ 5-10
การร่วมกันหันมาใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้ และเป็นการสร้างสรรค์อนาคตที่ดีให้กับโลกของเรา
รายการอ้างอิง
กระทรวงพลังงาน. (2561). เคล็ดไม่ลับ เลือกซื้อแอร์ให้มีประสิทธิภาพ [Infographic]. Facebook. https://www.facebook.com/photo/?fbid=1531090330293588&set=a.280591128676854
ณัฐดล ปัญญาสุข. (2567). PEA แนะนำเคล็ดลับดีๆ ใช้แอร์อย่างไรให้ประหยัด [Infographic]. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค. https://www.pea.co.th/Portals/0/EasyGalleryImages/1/7989/S__18768004.jpg
เทพรถ อนันต์สูงเนิน. (2566). เทคนิคการจัดการพลังงาน. กรุงเทพฯ: บริษัทวังอักษร. CU e-Library. https://elibrary-stoulib.cu-elibrary.com
สำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน. (2558). คำศัพท์พลังงาน: ความหมายของ BTU. จดหมายข่าวอนุรักษ์พลังงาน, 1, 14. https://www.eppo.go.th/images/newlatters/v-1_58.pdf
เรียบเรียงโดย
นางสาวนวรัตน์ เขียวแก้ว บรรณารักษ์ สำนักบรรณสารสนเทศ