“วันหมาสากล” มีจุดเริ่มต้นจากอะไร? แล้วทำไมถึงต้องเป็นวันที่ 26 สิงหาคมของทุกปี?
ย้อนกลับไปในปี 2004 ที่สหรัฐอเมริกา คอลลีน เพจ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ ได้ริเริ่ม “วันสุนัขโลก” หรือ International Dog Day ขึ้นมา จุดประสงค์หลักก็เพื่อเฉลิมฉลองบทบาทของสุนัขในชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขตำรวจ สุนัขช่วยเหลือผู้พิการ หรือสุนัขในบ้านที่ แต่ความพิเศษอยู่ตรงนี้คือคอลลีนเลือกวันที่ 26 สิงหาคม เพราะเป็นวันที่ครอบครัวเธอรับเลี้ยงน้องหมาพันธุ์เชลตี วัย 10 ปี เข้ามาอยู่ด้วยวันแรก กลายเป็นวันที่มีความหมายและเปี่ยมไปด้วยความทรงจำดี ๆ จนถูกยกให้เป็น “วันแห่งโอกาสใหม่” ของน้องหมาทั่วโลก และในปี 2013 วันสุนัขโลกก็ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในกฎหมายของรัฐนิวยอร์กอีกด้วย
แต่รู้ไหมว่า…มนุษย์เลี้ยงสุนัขมานานแค่ไหน? หลักฐานจากจีนระบุว่ามีการเลี้ยงสุนัขมาตั้งแต่ 15,000 ปีก่อนคริสตกาล ในอดีตคนจีนไม่ได้เลี้ยงสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง แต่เลี้ยงเพื่อใช้งานเป็นหลัก และยังมีหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันภัยในการเดินทางและปกป้องฝูงปศุสัตว์ให้เจ้าของทั้งยังใช้ในการล่าสัตว์และการต่อสู้ ในยุคที่ยังดำรงชีวิตด้วย การล่าสัตว์ หาของป่า สุนัขมีหน้าที่ลากซากสัตว์ที่ชาวบ้านล่าได้ กลับมายังหมู่บ้านเพื่อใช้เป็นอาหาร และเมื่อสุนัขที่เลี้ยงไว้ตายลงก็จะนำเนื้อมาปรุงเป็นอาหารและนำขน มาทำเครื่องนุ่มนอกจากนี้ชาวจีนยังเชื่อว่าสุนัขสามารถป้องกันภัยร้ายจากภูติผีและวิญญาณได้ ซึ่งจะเห็นได้จากภาพวาดสุนัข ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของเครื่องรางบนเครื่องชามเซรามิก ที่ขุดพบตามแหล่งต่างๆ หรือเครื่องใช้ที่ยังมีให้เห็นจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการแกะสลักจี้หยกรูปสุนัขเป็นเครื่องประดับเพื่อคุ้มครองจากสิ่งไม่ดี และรูปปั้นสุนัขที่ประดับหน้าพระราชวัง บ้านเรือน ที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน และสถานที่ประกอบธุรกิจ อีกทั้งยังเชื่อว่าเมื่อตายไป สุนัขจะเป็นผู้ปกป้องและนำทางดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปยังโลกหลังความตาย และเป็นหนึ่งใน 12นักษัตรที่แสดงถึงลักษณะขี้เล่น เป็นมิตร ซื่อสัตย์ และปกป้องผู้อื่น
และท่านใดที่เลี้ยงน้องหมาอยู่ อย่าลืมใส่ใจเรื่อง อาหาร เพราะมีหลายอย่างที่เราคิดว่าไม่อันตรายแต่น้องหมาอาจเจ็บป่วยได้ ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่:
- เครื่องปรุงรส
- นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว
- สัตว์มีกระดอง เช่น ปลาหมึก ปู กุ้ง
- ตับและเครื่องใน กระดูกปลายแหลม
- เบคอนและไส้กรอก
- เนื้อปลาดิบและไข่ดิบ
- ผักที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ ต้นหอม กุยช่าย
- ผักบางชนิด เช่น มันฝรั่งดิบ มะเขือเทศ
- ผลไม้บางชนิด เช่น พลับ พีช พลัม พรุน เชอร์รี่ อะโวคาโด องุ่น และลูกเกด
- ขนมหวานและไซลิทอล (Xylitol)
- ขนมปังยีสต์
- ถั่วแมคาเดเมีย
- เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน ช็อกโกแลต และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
รวมถึงพืชบางชนิดที่ใกล้ตัวมาก ๆ เช่น
- กระเทียม ทำให้อาเจียน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หอบ
- กุยช่าย อาเจียน ปัสสาวะเป็นเลือด หัวใจเต้นเร็ว หอบ
- ผักบุ้ง ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาว หากกินเข้าไปจะทำให้ทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ เบื่ออาหาร หายใจติดขัด กล้ามเนื้อกระตุก และอาจเกิดภาพหลอน
- มะกรูด และเลมอน น้ำมันหอมระเหยในต้นทำให้อาเจียน ท้องร่วง ซึมเศร้า
- มะเขือเทศ น้ำลายไหล ซึมเศร้า ม่านตาขยาย ท้องร่วง ซึมเศร้า
- ยูคาลิปตัส น้ำลายไหล อาเจียน ท้องเสีย ซึมเศร้า อ่อนแรง
- ลาเวนเดอ น้ำมันหอมระเหยและเกสรในดอกอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง
- ว่านหางจระเข้ เมื่อกินเข้าไปจะทำให้ท้องเสีย อ่อนเพลีย ซึม อาเจียน เบื่ออาหาร ตัวสั่น และทำให้น้ำปัสสาวะเปลี่ยนสีไป
- แอ๊ปเปิ้ล เชอร์รี่ และพลัม เมล็ดมีสารที่เป็นอันตรายกับสุนัข ทำให้รูม่านตาขยาย หายใจลำบาก หอบ ช็อก
ถ้าคุณกำลังคิดจะเลี้ยงสุนัขสักตัว ลองพิจารณาการ รับเลี้ยงจากศูนย์พักพิง เพราะสำหรับน้องหมา…แค่โอกาสเดียว ก็เปลี่ยนทั้งชีวิตได้เลย และท่านที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลการเลี้ยงสุนัขเพิ่มเติมได้ที่ห้องสมุด มสธ. ชื่อเรื่อง คู่มือเลี้ยงสุนัข = Dog stories / บรรณาธิการ, อุไร จิรมงคลการ, ลีฬภัทร กสานติกุล.
บรรณานุกรม
อุไร จิรมงคลการ, & ลีฬภัทร กสานติกุล (บ.ก.). (2564). คู่มือเลี้ยงสุนัข = Dog stories. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์บ้านและสวน.
Cesar Thailand. (n.d.). Celebrating International Dog Day.