สิ่งสำคัญที่อยู่คู่กับงานปริญญา นั้นก็คือ ครุยวิทยฐานะ เครื่องแบบที่สวมใส่ในพิธีจบการศึกษา ซึ่งครุยที่สวมใส่นั้นมีประวัติศาสตร์ที่มาอย่างไร เรียนจบแล้วทำไมต้องใส่ชุดครุย ค้นหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นมาชุดครุยในไทย และครุยของ มสธ. ได้ที่รายการ STOU Storian Podcast ตอนที่ 3 “ครุยวิทยฐานะ”
- ความหมายของคำว่า “ครุย และ วิทยฐานะ”
- เสื้อครุยในสมัยอยุธยา
- ครุยวิทยฐานะ กำเนิดในสมัยรัตนโกสินทร์
- ความเป็นมาของครุยวิทยฐานะของ มสธ.
- ปริญญาบัตรของ มสธ.
- เข็มวิทยฐานะของ มสธ.
- แหวนรุ่น ของ มสธ.
ความหมายของคำว่า “ครุย และ วิทยฐานะ”
ครุย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ได้อธิบายไว้ว่า หมายถึง
(๑) [คฺรุย] น. ชายผ้าที่ทำให้รุ่ยเป็นเส้น ๆ, ชายครุย ก็ว่า
(๒) น. ชื่อเสื้อจำพวกหนึ่ง ใช้สวมหรือคลุม มีหลายชนิด ใช้เป็นเครื่องประกอบเกียรติยศหรือแสดงหน้าที่ในพิธีการหรือแสดงวิทยฐานะ.
วิทยฐานะ หมายถึง น. ฐานะในด้านความรู้ เช่น สอบเทียบวิทยฐานะ มีวิทยฐานะในระดับปริญญาตรี.
เสื้อครุยในสมัยอยุธยา
การแต่งกายชุดครุยในประเทศไทย เริ่มมีหลักฐานปรากฏชัดครั้งแรกในสมัยอยุธยา เป็นภาพวาดของชาวฝรั่งเศสได้บันทึกเหตุการณ์ เมื่อครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้โปรดเกล้าฯ ให้คณะทูตจากสยาม นำโดยพระวิสูตรสุนทร หรือโกษาปาน เข้าเฝ้าฯ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศส ณ พระราชวังแวร์ซายส์ เมื่อปี พ.ศ.2229 ในครั้งนั้นคณะทูต ได้แต่งกายเต็มยศตามแบบประเพณีไทย คือ การแต่งกายด้วยการสวมเสื้อเยียรบับสีทอง และสวมเสื้อครุยทับ
ซึ่งได้มีการสันนิษฐานว่า การสวมครุยในสมัยอยุธยานั้น ได้รับอิทธิพลมาจากเสื้อคลุมของชาวเปอร์เซีย หรือชาวอิหร่านในปัจจุบัน ที่เข้ามาค้าขายและรับราชการในไทย
นอกจากนี้ จดหมายเหตุของลาลูแบร์ บันทึกภาษาฝรั่งเศลของซีมง เดอ ลา ลูแบร์ อัครราชทูตชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักอยุธยาในปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงแปลเป็นภาษาไทย ในจดหมายเหตุได้กล่าวถึงการแต่งกายเสื้อครุย ไว้ว่า
“…พวกขุนนางหรืออำมาตย์ นอกจากนุ่งผ้านุ่งแล้ว ยังมีเสื้อครุยผ้าขาวอีกตัวหนึ่ง (ฝรั่งเรียกเสื้อเชิ้ต) ใช้เหมือนเป็นเสื้อชั้นนอก…เป็นเครื่องสำแดงความเคารพให้ปรากฏต่อผู้ใหญ่ …เสื้อครุยเหล่านี้ไม่มีแผ่นคอต่อและไม่ปิดหน้าอก…”
และจดหมายเหตุของลาลูแบร์ ยังได้บันทึกฉลองพระองค์ครุยของพระมหากษัตริย์ ไว้ว่า
“… พระมหากษัตริยสยามทรงฉลองพระองค์แพร ต่วนดอกอย่างดี …ไว้ภายในฉลองพระองค์ครุย ปักอย่างงามวิจิตรสวมนอกอีกชั้นหนึ่ง…”
ต่อมาในยุครัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกำหนดเสื้อครุย พ.ศ. 2454 เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น กฎหมายฉบับนี้กำหนดว่า ผู้จะสวมเสื้อครุยต้องมีบรรดาศักดิ์หรือมีตำแหน่งที่กำหนดไว้ และได้กำหนดเสื้อครุยสำหรับข้าราชการ เรียกว่า ครุยเสนามาตย์ แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ชั้นตรี ชั้นโท และเอก ซึ่งผ้าและลวดลายของเสื้อครุยก็จะมีการประดับตกแต่งให้งามวิจิตรมากขึ้น ตามระดับตำแหน่งที่สูงขึ้น รวมถึงกำหนดให้การบรรพชาเจ้านาคสามารถสวมเสื้อครุยตามประเพณีแต่เดิมได้
ดังนั้น เสิ้อครุยจึงเป็นเครื่องแบบที่ใช้ในราชสำนัก สำหรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ และขุนนาง ใช้สวมใส่ในงานพระราชพิธีที่สำคัญ ๆ เพื่อเป็นการแสดงบรรดาศักดิ์และตำแหน่งของผู้สวมใส่ มาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งระเบียบแบบแผนการสวมเสื้อครุยได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
ครุยวิทยฐานะ กำเนิดในสมัยรัตนโกสินทร์
ในสมัยรัตนโกสินทร์ การสวมเสื้อครุยมีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่ใช้ในราชสำนักเท่านั้น ต่อมาได้ขยายมาสู่วงการการศึกษาและการศาล สำหรับเสื้อครุยที่นำมาใช้ในการกำหนดวิทยฐานะทางการศึกษา เรียกกว่า ครุยวิทยฐานะ (ครุยปริญญาหรือครุยบัณฑิต) เครื่องแบบสำหรับนิสิตนักศึกษาที่เล่าเรียนสำเร็จตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัย
ครุยวิทยฐานะ เริ่มมีในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อมีการรับเอาระบบการศึกษาและการศาลตามแบบอย่างตะวันตกมาใช้ ในปี พ.ศ.2440 พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ (ภายหลังทรงกรมเป็นกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์) พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 5 ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ได้กำหนดให้ผู้ที่สอบไล่วิชากฎหมายได้เป็นเนติบัณฑิตและผู้พิพากษาเมื่อขึ้นบัลลังก์ มีสิทธิสวมเสื้อครุย เรียกว่า เสื้อครุยเนติบัณฑิต
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการฯ ให้ประกาศใช้พระราชกำหนดเสื้อครุยเนติบัณฑิต พุทธศักราช 2457
ครุยวิทยฐานะ สำหรับบัณฑิตระดับปริญญา เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2473 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกำหนดเสื้อครุยบัณฑิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นเครื่องแบบเชิดชูเกียรติให้มีความทันสมัยทัดเทียมกับนักศึกษาในต่างประเทศ ชุดเป็นลักษณะครุยผ้าโปร่ง สีขาว ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่มีการใช้ครุยวิทยฐานะของบัณฑิตในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของไทย จนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบัน สถาบันการศึกษาแต่ละแห่งจะกำหนดรูปแบบของครุยที่มีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป ซึ่งจำแนกได้ 2 รูปแบบ ได้แก่
1. ครุยแบบพระราชพิธีไทยโบราณ ซึ่งจะเป็นชุดเนื้อผ้าโปร่ง สีขาว หรือสีอื่น ๆ
2. ครุยแบบตะวันตก ที่กำเนิดในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 12 นักศึกษามีการใส่เสื้อครุยคลุมยาวเพื่อเข้าเรียน และไทยเริ่มรับธรรมเนียมฝรั่งใช้ครุยแบบตะวันตกในผู้ที่สำเร็จการศึกษาเนติบัณฑิต เป็นครุยสีดำ เสื้อคลุมหลังจีบ มีแถบพื้นขาวลายทองพาดบ่าซ้าย จนกลายเป็นต้นแบบของเสื้อครุยแบบตะวันตกของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในประเทศไทย
ความเป็นมาของครุยวิทยฐานะของ มสธ.
ความเป็นมาของครุยวิทยฐานะของ มสธ. นั้น เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2522 สภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชได้พิจารณาอนุมัติให้ใช้ครุยวิทยฐานะแบบไทย ซึ่งเป็นชุดครุยแบบพระราชพิธีไทยโบราณ หรือที่เรียกว่า “ครุยเทวดา” เป็นเสื้อคลุมผ้าโปร่งสีขาว ผ่าอกตลอด มีสำรดรอบขอบที่ต้นแขนกับปลายแขน พื้นสำรดสีเขียวคาดสีทอง ตามสีประจำมหาวิทยาลัย สีเขียวนั้นหมายถึงสีประจำวันพุธ ซึ่งเป็นวันพระบรมราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสีทองคือสีแห่งความเป็นสิริมงคล ส่วนที่บริเวณอกเสื้อทั้ง 2 ข้าง มีวงกลมสีทอง กลางวงกลมมีเข็มตรามหาวิทยาลัยสีทอง ติดบนสำรดทั้ง 2 ข้าง
ครุยวิทยฐานะของ มสธ. แบ่งตามระดับการศึกษา 3 ระดับ คือ ครุยบัณฑิต (ปริญญาตรี) มีวงกลมข้างละ 1 วง ครุยมหาบัณฑิต (ปริญญาโท) มีวงกลมข้างละ 2 วง และครุยดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก) มีวงกลมข้างละ 3 วง
ความพิเศษอย่างหนึ่งของครุย มสธ. นั้นคือ ทุกสาขาวิชาจะใช้รูปแบบเหมือนกันทั้งมหาวิทยาลัย โดยไม่มีแถบสีสัญลักษณ์แบ่งแยกสาขาวิชา ซึ่งแนวคิดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความรักความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของบัณฑิต มสธ.
ปริญญาบัตรของ มสธ.
สัญลักษณ์ที่แสดงระดับการศึกษาที่จบ อีกหนึ่งสิ่งนั้นคือ ปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ตัวปกผลิตจากผ้าไหม ตรงกลางหน้าปกติดเข็มตรามหาวิทยาลัยสีทอง และสีของปกแบ่งตามระดับการศึกษา ได้แก่ ระดับปริญญาตรี ใช้ปกสีเขียว ปริญญาโท ใช้ปกสีน้ำเงิน และปริญญาเอก ใช้ปกสีแดง
เข็มวิทยฐานะของ มสธ.
นอกจากเข็มตรามหาวิทยาลัยที่ติดบนชุดครุยแล้ว ยังมี “เข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช” เครื่องหมายที่ระลึก เพื่อแสดงว่าเป็นผู้ที่ได้สำเร็จการศึกษาจาก มสธ. ทำด้วยโลหะชุบทอง ความสูงขนาด 6 เซนติเมตร มีความพิเศษ คือ ด้านหลังของเข็มจารึกเลขประจำตัวนักศึกษา ชื่อ-ชื่อสกุล อักษรย่อปริญญา และปีการศึกษาที่ได้รับปริญญา
แหวนรุ่น ของ มสธ.
ของที่ระลึกสำหรับบัณฑิต ยังมีแหวนรุ่น ซึ่งมีทั้งแหวนเงินรมดำ และแหวนทองคำ โดยที่ตัวแหวนจะสลักชื่อมหาวิทยาลัย ตรามหาวิทยาลัย ชื่อรุ่น และปีการศึกษาที่จบ สำหรับทรงของแหวน มี 2 แบบ คือ รุ่นหัวตัดไม่ประดับพลอย กับรุ่นหัวรีประดับพลอยที่มีให้เลือกหลากหลายสี ถือเป็นเครื่องประดับแทนความทรงจำว่า เป็นบัณฑิตที่จบจากรั้วเขียวทองของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ชุดครุยวิทยฐานะ เป็นเครื่องแบบพิธีการเพื่อแสดงถึงปริญญาวิทยฐานะที่ได้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย หรือเชิดชูเกียรติที่ได้จบการศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งปัญญาที่บัณฑิตสวมใส่อย่างภาคภูมิใจ แสดงถึงความมุ่งมั่นพากเพียรจนก้าวสู่วันแห่งความสำเร็จในเส้นทางการศึกษา
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- STOU Storian Podcast EP.2: พิธีพระราชทานปริญญาบัตร
- พิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตรุ่นแรกของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชครั้งแรก
- ครุย มสธ. เครื่องแบบแห่งความภาคภูมิ
เอกสารอ้างอิง
- มยุรา ยะทา. (19 ธันวาคม 2562). เรื่องของ ครุย เข้าใจที่มาชุดแห่งความสำเร็จในวันรับปริญญา. กรุงเทพธุรกิจ.
- พิพิธภัณฑ์สตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. (กรกฎาคม 2561). ครุย สัญลักษณ์แสดงวิทยฐานะ.
ภาพประกอบโดย
- สถานสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- สมาคมสุโขทัยธรรมาธิราช