STOU Read it Now! Ep. 24 “การเพาะเห็ดแบบเศรษฐกิจพอเพียง”

STOU Read it Now! รายการแนะนำหนังสือดี ๆ ของห้องสมุด มสธ. เกี่ยวกับเรื่องราวที่จะทำให้เรามีชีวิตที่มีความสุขแบบพอเพียงและยั่งยืนโดยการน้อมนำ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระราชทานแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดระยะเวลากว่า ๓๐ ปี เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับภาครัฐ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ให้สมดุลและพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แบบ “พอมีพอกิน พออยู่พอใช้ พออกพอใจ” ยุติความยากจนโดยการกระจายรายได้สู่ชนบท เพื่อความความมั่นคงทางอาหารและยกระดับโภชนาการ พร้อมทั้งส่งเสริมเกษตรกรรมซึ่งเป็นการสร้างหลักประกันให้มีแบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน

ปัจจุบัน “ค่าครองชีพ” เป็นประเด็นที่คนไทยให้การจับตามอง และยังเปลี่ยนวิถีชีวิตคนทั่วโลกให้ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจ รายได้หามาได้เท่าไร ก็ต้องหมดไปกับค่าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ทำอย่างไรเราจะลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ในครัวเรีอน วันนี้จึงจะมาแนะนำหนังสือที่น่าสนใจ ได้แก่หนังสือเรื่อง การเพาะเห็ดแบบเศรษฐกิจพอเพียง เขียนโดย อาจารย์วิทยา ทวีนุช ที่รวบรวมเรื่องราวของการเพาะเห็ดอย่างละเอียด ตั้งแต่ ความสำคัญของเห็ด ชีววิทยาของเห็ด ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต โรงเรือนและอุปกรณ์ในการเพาะเห็ด รวมถึงการให้รู้จักเห็ดพิษและวิธีการรักษาเบื้องต้นจากการได้รับพิษของเห็ด

เห็ดเป็นพืชที่พบอยู่ในธรรมชาติมีจำนวนมากกว่า 100,000 ชนิด โดยจะพบมากช่วงฤดูฝน ตามป่าเขา ทุ่งนา ต้นไม้ สนามหญ้า เป็นต้น เห็ดแบ่งได้เป็นเห็ดที่รับประทานได้ และเห็ดพิษ ปัจจุบันมนุษย์สามารถเพาะเห็ดเลียนแบบธรรมชาติ จนพัฒนาเป็นการค้าทั่วโลกมีประมาณ 20 ชนิด สำหรับประเทศไทยเห็ดที่นิยมเพาะเป็นการค้ามีประมาณ 10 ชนิด ได้แก่ เห็ดฟาง เห็ดสกุลนางรม เห็ดหูหนู เห็ดหอม เห็ดแชมปิญอง เห็ดขอนขาว เห็ดหลินจือ และเห็ดลม และเห็ดที่กำลังพัฒนาเป็นการค้า เช่น เห็ดเข็มเงินเข็มทอง เห็ดยานางิ เห็ดหัวลิง เห็ดแครง เห็ดถั่ว (เห็ดโคนน้อย) และเห็ดตีนแรด เป็นต้น

การเพาะเห็ดในประเทศไทย นับว่ามีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ทั้งเป็นอาชีพเสริมและอาชีพหลัก ปัจจุบันมีการเพาะเห็ดเป็นการค้ามากขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากประชากรเพิ่มมากขึ้น จึงต้องการอาหารโปรตีนที่ราคาไม่แพง แต่มีคุณค่าอาหารสูง มีไขมันต่ำ ปลอดจากสารเคมี ตลาดจึงมีความต้องการสูง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งเห็ดสด เห็ดแห้ง และเห็ดกระป๋อง โดยประเทศไทยส่งเห็ดออกจำหน่ายต่างประเทศได้ปีละประมาณ 200 ล้านบาท เนื่องจากประเทศไทยจัดเป็นประเทศหนึ่งที่มีสภาพภูมิอากาศเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ด มีเศษวัสดุ เหลือใช้ทางการเกษตรหลายชนิด เช่น ฟางข้าว ซังข้าวโพด ขี้เลื่อย เปลือกถั่ว กากมันสำปะหลัง กากทะลาย ปาล์ม ซึ่งสามารถนำมาเพาะเห็ดได้เป็นอย่างดี โดยวัสดุเหล่านี้มีราคาต่ำ เมื่อนำมาใช้เพาะเห็ดจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลงด้วย ยิ่งถ้าใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตก็จะทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น จึงเป็นที่เชื่อได้ว่า ถ้าส่งเสริมการเพาะเห็ดอย่างจริงจังแล้ว จะสามารถกระจายรายได้สู่ชนบทได้อีกทางหนึ่ง เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นสำคัญ อีกทั้งเป็นการลดปริมาณขยะจากวัสดุเหลือใช้ ซึ่งสามารถลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง

นอกจากการปลูกเพื่อเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายแล้ว การบริโภคเห็ดก็มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เนื่องจากเห็ดมีคุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่ ได้แก่ โปรตีน ธาตุฟอฟอรัส เหล็ก และแคลเซียม และเห็ดยังมีวิตามินสูง ตัวอย่าง เช่น เห็ดนางรมมีวิตามินบีสูง เห็ดฟางมีวิตามินซีสูง ที่มีคุณค่าทางอาหาร นอกจากนั้นเห็ดยังมีสรรพคุณด้านสมุนไพรรักษาโรค ได้แก่

1. เห็ดหอมมีสารเลนทิแนน (Lentinan) ช่วยป้องกันเนื้องอก ลดไขมันในเลือด สร้างภูมิคุ้มกัน

2. เห็ดหูหนู ช่วยป้องกันโรคเจ็บคอ โรคโลหิตจาง โรคร้อนใน

3. เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า มีวิตามินบีสูง ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา โรคปวดเอว

4. เห็ดฟาง มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด และโรคเหงือก

5. เห็ดหูหนูขาว ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบ โรครีดสีดวงทวาร

6. เห็ดหลินจือ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต

7. เห็ดภู่มาลา (เห็ดหัวลิง) ช่วยป้องกันโรคกระเพาะอาหาร กระตุ้นภูมคุ้มกันโรค

หากสนใจศึกษาการเพาะเห็ดเพื่อรับประทานหรือขายเพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือน อ่านเนื้อหาหนังสือทั้งเล่มได้ที่ https://bit.ly/40a9DBy